สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ชัยนาท นำโดยนางสาวอุบลศรี หอพรัตราภรณ์ หัวหน้าสำนักงาน
                   ตรวจบัญชีสหกรณ์ชัยนาท และประธานกรรมการสหกรณ์ทั้ง 4 สหกรณ์ ที่เข้าร่วมโครงการ  ๙๙๙ โปรแกรมบัญชี
                   ๙๙๙ ความดีเพื่อเจ้าพ่อหลวง เข้ารับมอบโล่เกียรติคุณ ณ  โรงแรมรามาการ์เด้นส์  กทม.

                                   นายสิงห์ทอง  ชินวรรังสี  อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  เป็นประธานมอบโล่เกียรติคุณแก่สหกรณ์
                   ในพื้นที่ภาคกลางที่เข้าร่วมโครงการ ๙๙๙  โปรแกรมบัญชี  ๙๙๙  ความดีเพื่อเจ้าพ่อหลวง จำนวน 257 แห่ง 
                   จากสหกรณ์ 999 แห่งทั่วประเทศ  ณ  โรงแรมรามาการ์เด้นส์  กทม.โดยมี  นายวิจักร  อากัปกริยา รองอธิบดี
                   กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และผู้บริหารกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้การต้อนรับ
                                   นายสิงห์ทอง  ชินวรรังสี  อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  กล่าวว่า  โครงการ ๙๙๙ โปรแกรมบัญชี ๙๙๙
                   ความดีเพื่อเจ้าพ่อหลวง เป็นโครงการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์จัดขึ้นเพื่อเฉลิม
                   พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 7  รอบ ใน  
                   วันที่ 5 ธันวาคม 2554  และเป็นการส่งเสริมให้สหกรณ์ใช้โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจรที่
                   กรมตรวจบัญชีสหกรณ์พัฒนาขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ  ลดขั้นตอน  และให้บริการสมาชิกได้อย่างรวดเร็วแบบ
                   One Stop Service  สมาชิกได้รับเงินปันผลเร็วขึ้นจากการปิดบัญชีที่รวดเร็ว ส่วนเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์
                   ก็สามารถทำงานได้สะดวกและได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น  ผู้บริหารสหกรณ์สามารถติดตามผลการดำเนินงานได้อย่าง
                   ทันท่วงที  สร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่สมาชิก  ที่สำคัญยังเป็นบริการที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งการที่สหกรณ์ได้นำ
                   โปรแกรมดังกล่าวไปใช้ในการบริหารงานนับว่าเป็นการช่วยส่งเสริม สนับสนุนให้สหกรณ์เข้มแข็ง  สมาชิกอยู่ดีกินดี
                   เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม
                                      สำหรับสหกรณ์ที่เข้ารับโล่เกียรติคุณในวันนี้  เป็นสหกรณ์ในพื้นที่ภาคกลาง รวมทั้งสิ้น 257 สหกรณ์ 
                   มีสมาชิกรวมกว่า 3 แสน 9 หมื่นคน ที่ได้รับประโยชน์จากการบริหารงานของสหกรณ์ด้วยโปรแกรม ระบบบัญชีสหกรณ์
                   ครบวงจร  ซึ่งหากรวมสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ร่วมโครงการทั้ง
                   999 แห่ง พบว่ามีสมาชิกร่วม 3 ล้านคน ได้รับประโยชน์กันถ้วนทั่วผลรวมของปริมาณธุรกิจกว่า 5 หมื่น 6 พันล้านบาท
                   ได้รับการดูแลและบริหารด้วยโปรแกรมดังกล่าว โดยภายในงานได้จัดให้มีการจัดแสดงนิทรรศการของสหกรณ์ที่ใช้
                   โปรแกรมระบบบัญชีครบวงจรและประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม  อาทิ  สหกรณ์การเกษตรสามชุก  จำกัด 
                   จังหวัดสุพรรณบุรี  สหกรณ์นิคมวังน้ำเย็นสอง จำกัด  จังหวัดสระแก้ว  และสหกรณ์ออมทรัพย์กองพลพัฒนาที่ 1 จำกัด 
                   จังหวัดราชบุรี