สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ชัยนาท เข้ารับโล่และประกาศเกียรติคุณ
ข้าราชการพลเรือนดีเด่น พนักงานราชการดีเด่น และลูกจ้างดีเด่น ประจำปี 2555
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2556 เนื่องในโอกาสวันสถาปนา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ครบรอบ 61 ปี ณ ลานเอนกประสงค์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในโอกาสนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดให้มีพิธีมอบโล่และประกาศเกียรติคุณ แก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น พนักงานราชการดีเด่น และลูกจ้างดีเด่น ประจำปี 2555 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ปฏิบัติงาน ในการพัฒนาศักยภาพ การทำงานให้ดียิ่งขึ้น โดยนายวิจักร อากัปกริยา อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธานมอบ ได้กล่าวมอบโอวาท โดยย้ำ ให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ทำงานเพื่อราชการอย่างเต็มกำลังความสามารถ และมีความ ซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป
สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ชัยนาท ในปีนี้มีพนักงานราชการได้รับโล่รางวัล ผู้ให้บริการโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ดีเด่นยอดเยี่ยม ปี 2555 ได้แก่ นายนันทพงศ์ เลาหพันธ์พงศ์ เจ้าหน้าที่ระบบงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีภารกิจหลักคือการดูแล แนะนำ และให้บริการโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ แก่ สหกรณ์และกลุ่มเกษตรในจังหวัดชัยนาท หลังจากเสร็จสินพิธีมอบโล่และประกาศเกียรติคุณ แก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น พนักงานราชการดีเด่น และลูกจ้างดีเด่นปี 2555
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้กล่าวอีกว่า "ปีต่อไป ในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 62 มองว่าไม่ใช่เฉพาะอธิบดีคนปัจจุบัน แต่มองไปถึงอธิบดีคนต่อไป ซึ่งคาดว่ามีแนวนโยบายในการทำงานไม่ต่างกันมาก เพราะเรามีหน้าที่ในการทำงานเพื่อดูแลสุขภาพของสหกรณ์ไม่ให้เจ็บป่วย คือ ไม่ให้มีข้อบกพร่องเกิดขึ้นในสหกรณ์ ไม่ให้เกิดการทุจริตซึ่งจะทำให้สหกรณ์เกิดความเสียหาย ทั้งนี้ กรมฯ จะเร่งพัฒนาบุคลากรให้มีเชี่ยวชาญ มีความเข้มข้นและจริงจังในการปฏิบัติงานตรวจสอบบัญชี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อบกพร่องหรือการทุจริตขึ้นในสหกรณ์ โดยเป็นในลักษณะของการเฝ้าระวัง ดูแล ส่งเสริม สนับสนุนสุขภาพของสหกรณ์ รวมทั้งการป้องปราม เตือนภัย จากการที่เข้าไปตรวจสอบ และแจ้งข้อบกพร่องแก่สหกรณ์ว่าควรจะแก้ไขปรับปรุงอย่างไร ประเด็นสำคัญคือการเน้นในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งของบุคลากรให้มากขึ้น เพราะถ้าชุมชนใหญ่ขึ้น การแข่งขันก็จะมากขึ้น ใครแข็งแรงกว่าก็จะอยู่รอด ใครอ่อนแอก็จะเสียเปรียบ ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการพัฒนามาตรฐานในการทำงาน รวมทั้งด้านภาษา ที่จำเป็นต้องรู้ภาษาที่สอง ภาษาที่สามเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นอันดับแรกจึงต้องพัฒนาทรัพยากรบุคคล ให้มีความรู้ความสามารถ เรื่องที่สองคือ การพัฒนาเครื่องมือในการทำงาน ซึ่งกรมฯ ก็ได้มีการพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ อยู่เสมอ เช่น โปรแกรมระบบบัญชี ซึ่งเป็นโปรแกรมครบวงจรและมีคุณภาพ โดยสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกร สามารถนำไปใช้ติดตั้งในสหกรณ์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้หากมีปัญหาในการใช้งาน สามารถขอคำแนะนำปรึกษาได้ที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทุกจังหวัดทั่วประเทศ |
|